1. ยี่ห้อ ยี่ห้อของปริ้นเตอร์ก็มีมากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ปริ้นเตอร์ Canon, HP, Epson, Lexmark, Samsung, Fujitsu และยังมีอีกยี่ห้อที่คนยังไม่ค่อยรู้ว่ามี laser printer ด้วย คือ Ricoh เพราะคนส่วนใหญ่รู้จักแต่ Ricoh ที่เป็นเครื่องถ่ายเอกสารและกล้องถ่ายรูป ซึ่งในการเลือกซื้อปริ้นเตอร์ของคนส่วนใหญ่ ก็ต้องยอมรับว่ายี่ห้อดังๆ หรือกำลังเป็นที่นิยมมักจะมีตัวเลือกแรกๆ ของคนซื้อปริ้นเตอร์ แต่จริงๆ แล้ว ปริ้นเตอร์ดีๆ มีหมดทุกยี่ห้อแหละ เพียงแต่เวลาซื้อ ต้องพิจารณาจากคุณสมบัติและราคาประกอบด้วย ถ้า spec ใกล้เคียงกัน แต่ราคาถูกกว่า หรือลดราคา ก็เลือกยี่ห้อนั้น
2. ประเภทของปริ้นเตอร์ ปริ้นเตอร์มีหลายประเภทมาก ทั้ง Dotmatirx Printer, Film Printer, Inkjet Printer, Mini Printer , Laser Printer, Line Printer, Multifunction Printer หรือ All-In-One (AIO), Mobile Printer, Photo printerและ Plotter แต่ประเภทที่ใช้งานกันทั่วไป คือ Ink-Jet printer, Laser Printer และ Multifunction Printer
3. ความเร็วของปริ้นเตอร์ วัดเป็นค่า ppm (pages per minute) หรือ จำนวนหน้าที่ปริ้นได้ใน 1 นาที ถ้าเราอยากได้ปริ้นเตอร์ปริ้นงานทั่วไป ค่า ppm ไม่ต้องเยอะมากก็ได้ แต่ถ้าต้องการเน้นปริ้นปริมาณเยอะ ก็ควรเลือกเครื่องที่มีค่า ppm สูงหน่อยอย่างของ laser printer เครื่องเล็กทั่วไปค่า ppm เฉลี่ยจะอยู่ที่ 22-28 ครับ
4. ความละเอียด resolution วัดค่าเป็น dpi (dots per inch) ปกติจะเริ่มต้นที่ 600×600 สำหรับ ปริ้นเตอร์ทั่วๆ ไป ยิ่งค่าสูงมากขึ้น ภาพที่ได้ออกมาจากการปริ้น ก็จะคมชัดมากขึ้น แต่ก็แพงขึ้นด้วย
5. ขนาดกระดาษ ปริ้นเตอร์ จะสามารถปริ้นเอกสาร บนกระดาษที่มีขนาดแตกต่างกันออกไป ยิ่งกระดาษที่มีขนาดใหญ่ เช่น A3, A2, A1 ปริ้นเตอร์บางรุ่นก็ปริ้นไม่ได้ นอกจากนี้ยังมี printer ที่สามารถปริ้นได้เฉพาะ กระดาษขนาดเล็กเท่านั้น เช่น Photo printer หรือ Mobile Printer
นอกจาก 5 ข้อนี้แล้ว คุณควรศึกษาข้อมูลเรื่องคุณสมบัติของปริ้นเตอร์ที่เราอยากได้และเปรียบเทียบหลายๆ ยี่ห้อก่อนซื้อด้วยนะจ๊ะ ทางที่ดีคือไปดูตามร้านเอาเลย จะได้ลองยกเครื่องดูได้ด้วยค่ะ
